ปิดสวิตช์สว. สร้างสังคมแห่งสุขภาวะ

คำนำ

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก ตั้งแต่การทำงาน การเรียน ไปจนถึงการพักผ่อนและบันเทิง ทำให้หลายคนหลงลืมไปว่าการใช้เทคโนโลยีมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้เช่นกัน

ผลกระทบของการใช้สื่อสังคมออนไลน์

การศึกษาวิจัยมากมายพบว่าการใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเวลานานๆ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

ผลกระทบทางร่างกาย

• ปัญหาการนอนไม่หลับ: แสงสีฟ้าจากหน้าจอของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เราหลับได้
• อาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ: การนั่งหรือนอนในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ ขณะใช้สื่อสังคมออนไลน์อาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อได้
• สายตาเสีย: การจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้าและสายตาเสียได้

ผลกระทบทางจิตใจ

• ความเครียดและวิตกกังวล: การใช้สื่อสังคมออนไลน์มากเกินไปอาจทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวลได้ เนื่องจากการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น หรือการรับข้อมูลข่าวสารที่มากเกินไป
• ภาวะซึมเศร้า: การใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ เนื่องจากการโดดเดี่ยวทางสังคมหรือการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
• อาการติดสื่อสังคมออนไลน์: การใช้สื่อสังคมออนไลน์มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการติดได้ โดยผู้ใช้จะรู้สึกกระวนกระวายใจหรือไม่สบายใจหากไม่ได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์

สถิติการใช้สื่อสังคมออนไลน์

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ในปี 2565 คนไทยมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์เฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง 35 นาที โดยแบ่งเป็นการใช้

• Facebook 92.4%
• YouTube 81.6%
• LINE 67.5%
• Twitter 33.2%
• Instagram 28.8%

ปิดสวิตช์สว. สร้างสังคมแห่งสุขภาวะ

เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว เราจึงจำเป็นต้องปิดสวิตช์สว. (สมาร์ทโฟน, โซเชียลมีเดีย, วิทยุ, โทรทัศน์) แล้วหันมาดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจกันมากขึ้น โดยมีคำแนะนำ ดังนี้

วิธีปิดสวิตช์สว.

• กำหนดเวลาการใช้สื่อสังคมออนไลน์: กำหนดเวลาที่ชัดเจนในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ และพยายามปฏิบัติตาม
• ปิดการแจ้งเตือน: ปิดการแจ้งเตือนจากสื่อสังคมออนไลน์เพื่อลดการรบกวน
• มีกิจกรรมอื่นๆ ที่ชอบ: หากิจกรรมอื่นๆ ที่ชอบและทำได้นอกจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เช่น อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือพบปะเพื่อนฝูง
• พักสายตาบ่อยๆ: พักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะๆ โดยมองออกไปไกลๆ หรือหลับตาซักพัก
• ปฏิสัมพันธ์กับคนจริงๆ: หาเวลาพบปะและพูดคุยกับคนจริงๆ มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการโดดเดี่ยวทางสังคม

ประโยชน์ของการปิดสวิตช์สว.

การปิดสวิตช์สว. จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์ต่างๆ ดังนี้

• นอนหลับดีขึ้น: การลดการใช้สื่อสังคมออนไลน์ก่อนนอนจะช่วยให้เราหลับได้ง่ายขึ้นและมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น
• สุขภาพกายดีขึ้น: การลดการใช้สื่อสังคมออนไลน์จะช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ รวมถึงช่วยป้องกันสายตาเสียได้
• สุขภาพจิตดีขึ้น: การลดการใช้สื่อสังคมออนไลน์จะช่วยลดความเครียดและวิตกกังวล รวมถึงป้องกันภาวะซึมเศร้าได้
• มีเวลาให้กับสิ่งที่สำคัญ: การลดการใช้สื่อสังคมออนไลน์จะช่วยให้เรามีเวลาเหลือมากขึ้นสำหรับสิ่งที่สำคัญในชีวิต เช่น การทำงาน การเรียน หรือการอยู่กับครอบครัว

ตารางที่ 1: ผลกระทบของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อสุขภาพ

ตารางที่ 2: วิธีปิดสวิตช์สว.

ตารางที่ 3: ประโยชน์ของการปิดสวิตช์สว.

เคล็ดลับและเทคนิค

• ใช้แอปพลิเคชันจำกัดเวลาการใช้สื่อสังคมออนไลน์: มีแอปพลิเคชันมากมายที่สามารถช่วยเราจำกัดเวลาการใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้
• ตั้งเวลาเตือนให้ตัวเองปิดสวิตช์สว. เป็นระยะๆ: ตั้งเวลาเตือนให้ตัวเองทุกๆ ชั่วโมงหรือสองชั่วโมง เพื่อให้เราพักสายตาและลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย
• หาเพื่อนหรือครอบครัวที่ร่วมปิดสวิตช์สว. ด้วยกัน: การมีเพื่อนหรือครอบครัวที่ร่วมปิดสวิตช์สว. ด้วยกันจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจมากขึ้น

เรื่องราวจากชีวิตจริง

• เรื่องที่ 1: วันหนึ่งหญิงสาวคนหนึ่งนั่งเล่นสื่อสังคมออนไลน์อยู่ที่บ้าน ขณะที่กำลังเลื่อนฟีดอยู่นั้น เธอเห็นเพื่อนๆ ของเธอไปเที่ยวต่างประเทศกันหมด ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดและน้อยใจ เธอจึงปิดสวิตช์สว. และออกไปเดินเล่นข้างนอกแทน หลังจากได้สูดอากาศบริสุทธิ์และได้เห็นผู้คนมากมาย เธอก็รู้สึกดีขึ้นและเลิกคิดเรื่องที่ทำให้เธอหงุดหงิดไปได้

• เรื่องที่ 2: ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ จนปวดหลังและปวดหัว เขาจึงตัดสินใจปิดสวิตช์สว. และออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะ หลังจากวิ่งเสร็จ เขาก็รู้สึกสดชื่นและมีสมาธิมากขึ้นในการทำงาน

• เรื่องที่ 3: หญิงชราคนหนึ่งรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว เธอจึงนั่งเล่นสื่อสังคมออนไลน์เป็นเวลานานๆ หวังว่าจะได้คุยกับคนอื่นบ้าง แต่เธอกลับรู้สึกแย่ลงกว่าเดิม เธอจึงตัดสินใจปิดสวิตช์สว.