ซักแห้งสะดวก ใช้น้ำยาซักแห้ง ซื้อที่ไหนก็ได้ ตามใจคุณ
การซักแห้งเป็นวิธีการทำความสะอาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยถนอมเสื้อผ้าราคาแพงจากการสึกหรอจากการซักเครื่องเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดเวลาและแรงในการซักด้วยตัวเองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การจะซักแห้งได้นั้น จำเป็นต้องใช้น้ำยาซักแห้ง ซึ่งมีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไป หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือแม้กระทั่งร้านค้าออนไลน์ มาดูกันว่า น้ำยาซักแห้ง ซื้อที่ไหน ได้บ้าง
น้ำยาซักแห้งมีกี่ประเภท
น้ำยาซักแห้งมีอยู่หลายประเภท โดยแบ่งตามส่วนประกอบและคุณสมบัติ ดังนี้
-
น้ำยาซักแห้งแบบเปอร์คลอโรเอทิลีน (Perchloroethylene, PERC) เป็นน้ำยาซักแห้งแบบดั้งเดิมที่ใช้กันมานานที่สุด มีคุณสมบัติในการขจัดคราบได้ดี แต่มีข้อเสียคือมีกลิ่นฉุนและเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
-
น้ำยาซักแห้งแบบไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon) เป็นน้ำยาซักแห้งที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าแบบ PERC มีกลิ่นอ่อน แต่ประสิทธิภาพในการขจัดคราบอาจไม่ดีเท่า
-
น้ำยาซักแห้งแบบแอลพีจี (Liquefied Petroleum Gas, LPG) เป็นน้ำยาซักแห้งที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นตัวทำละลาย มีคุณสมบัติในการขจัดคราบได้ดีและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
-
น้ำยาซักแห้งแบบน้ำ (Aqueous) เป็นน้ำยาซักแห้งที่ใช้สารเคมีละลายน้ำเป็นตัวทำละลาย มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แต่ประสิทธิภาพในการขจัดคราบอาจไม่ดีเท่าแบบอื่นๆ
น้ำยาซักแห้ง ซื้อที่ไหนได้บ้าง
น้ำยาซักแห้งมีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามร้านค้าต่างๆ ดังนี้
- ร้านสะดวกซื้อ
- ซูเปอร์มาร์เก็ต
- ร้านค้าออนไลน์
- ร้านขายอุปกรณ์ซักรีด
ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อน้ำยาซักแห้ง
ก่อนตัดสินใจซื้อน้ำยาซักแห้ง จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
-
ประเภทของน้ำยาซักแห้ง เลือกน้ำยาซักแห้งให้เหมาะกับประเภทของเสื้อผ้าและความต้องการใช้งานของคุณ
-
ความปลอดภัย เลือกน้ำยาซักแห้งที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
-
ประสิทธิภาพ เลือกน้ำยาซักแห้งที่มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบและสิ่งสกปรก
-
ราคา เลือกน้ำยาซักแห้งที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
ทิปส์การใช้น้ำยาซักแห้ง
- อ่านฉลากคำแนะนำการใช้อย่างละเอียดก่อนใช้งาน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าที่ต้องการซักแห้งเหมาะกับการซักด้วยน้ำยาซักแห้ง
- ใช้ถุงมือและหน้ากากเมื่อใช้น้ำยาซักแห้ง
- ใช้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
- ซักแห้งในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปหรือไม่น้อยเกินไป
- ทิ้งน้ำยาซักแห้งที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธี
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
- อย่าใช้น้ำยาซักแห้งกับเสื้อผ้าที่เปียก
- อย่าซักแห้งเสื้อผ้าที่มีคราบเลือดหรือคราบมัน
- อย่าทิ้งน้ำยาซักแห้งไว้บนเสื้อผ้าข้ามคืน
- อย่าสูดดมหรือดมกลิ่นน้ำยาซักแห้งเป็นเวลานาน
ขั้นตอนการซักแห้งด้วยตนเอง
- เตรียมน้ำยาซักแห้งและอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น ถุงซักแห้ง ถุงมือ หน้ากาก
- ใส่เสื้อผ้าที่ต้องการซักแห้งลงในถุงซักแห้ง
- เทน้ำยาซักแห้งลงในถุงซักแห้งตามปริมาณที่ระบุในฉลาก
- ปิดถุงซักแห้งให้แน่นแล้วเขย่าให้ทั่ว
- ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วเขย่าอีกครั้ง
- นำเสื้อผ้าออกจากถุงซักแห้งแล้วตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
- เมื่อเสื้อผ้าแห้งแล้ว ให้รีดเพื่อให้เรียบร้อย
ข้อดีและข้อเสียของการซักแห้ง
ข้อดี
- ช่วยถนอมเสื้อผ้าราคาแพงจากการสึกหรอจากการซักเครื่อง
- ช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกที่ซักด้วยน้ำเปล่าไม่ออก
- ประหยัดเวลาและแรงในการซัก
- สะดวกสบาย สามารถซักแห้งได้ที่บ้าน
ข้อเสีย
- มีราคาแพงกว่าการซักน้ำปกติ
- อาจมีกลิ่นฉุนหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพหากใช้น้ำยาซักแห้งบางประเภท
- ไม่เหมาะกับเสื้อผ้าทุกประเภท
สรุป
การซักแห้งเป็นวิธีการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะช่วยถนอมเสื้อผ้าราคาแพงจากการสึกหรอจากการซักเครื่อง ช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกที่ซักด้วยน้ำเปล่าไม่ออก ประหยัดเวลาและแรงในการซัก และสะดวกสบาย สามารถซักแห้งได้ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องใช้น้ำยาซักแห้งซึ่งมีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามร้านค้าต่างๆ ก่อนซื้อน้ำยาซักแห้ง ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของน้ำยาซักแห้ง ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และราคา เพื่อให้ได้น้ำยาซักแห้งที่เหมาะกับประเภทของเสื้อผ้าและความต้องการใช้งานของคุณ