ตะลุยโลกราเม็งหมูแห่งความสุข!

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบความอร่อยกลมกล่อมของน้ำซุปกระดูกหมูแท้ๆ ที่เคี่ยวมาอย่างพิถีพิถันจนได้น้ำซุปที่เข้มข้นหอมหวลละมุนลิ้นแล้วล่ะก็ เชื่อว่าชื่อราเม็งหมู "โทนชิน" อาจจะคุ้นหูคุณอยู่บ้าง เนื่องจากโทนชินนั้นถือเป็นราเม็งระดับตำนานที่มีอยู่จริงไม่ใช่แค่ตัวละครในมังงะชื่อดังอย่าง "ปรมาจารย์ราเม็ง" อีกต่อไปแล้ว

กำเนิดแห่งโทนชิน

เรื่องราวของราเม็งโทนชินนั้นมีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 1955 โดย คุณโทชิโอะ โยชิอิ อดีตเชฟร้านเทปันยากิซึ่งมีความชื่นชอบในราเม็งเป็นชีวิตจิตใจ จึงตัดสินใจผันตัวเองมาเปิดร้านราเม็งเล็กๆ แห่งหนึ่งในย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว โดยชูจุดเด่นที่น้ำซุปกระดูกหมูสูตรเฉพาะที่คุณโยชิอิได้ศึกษาและพัฒนาขึ้นมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนในที่สุดก็ได้สูตรน้ำซุปทองคำที่หอมหวลเข้มข้นไม่เหมือนใคร และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของราเม็งโทนชินที่โด่งดังไปทั่วทั้งญี่ปุ่นและทั่วโลกในเวลาต่อมา

ความลับของน้ำซุปโทนชิน

ถึงแม้ว่าปัจจุบันร้านราเม็งโทนชินจะมีสาขาต่างๆ มากมายในหลายประเทศทั่วโลก แต่สูตรน้ำซุปของโทนชินก็ยังคงเป็นความลับสุดยอดที่ทางร้านปกปิดเป็นอย่างดี มีเพียงเชฟเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการถ่ายทอดสูตรน้ำซุปนี้ โดยกระบวนการเคี่ยวน้ำซุปของโทนชินนั้นกินเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง โดยคัดสรรเฉพาะกระดูกหมูชั้นดีจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน จากนั้นนำมาเคี่ยวอย่างช้าๆ ด้วยไฟอ่อนเพื่อสกัดเอาความอร่อยหวานจากกระดูกหมูออกมาให้ได้มากที่สุด

ความพิเศษของราเม็งโทนชิน

นอกจากน้ำซุปกระดูกหมูอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ราเม็งโทนชินยังมีจุดเด่นอื่นๆ ที่ทำให้ราเม็งของทางร้านมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ได้แก่

• เส้นราเม็ง: เส้นราเม็งของโทนชินนั้นผลิตจากแป้งสาลีคุณภาพสูงที่ผสมผสานกับน้ำแร่ธรรมชาติ ทำให้ได้เส้นราเม็งที่เหนียวนุ่ม มีความยืดหยุ่นที่ลงตัว
• หมูชาชู: หมูชาชูของโทนชินนั้นคัดสรรมาจากเนื้อหมูส่วนท้องที่นุ่มและชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษ จากนั้นนำไปตุ๋นในน้ำซุปเพื่อให้ได้ความนุ่มละลายในปาก
• เครื่องเคียง: ราเม็งโทนชินมาพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ต้นหอมญี่ปุ่น ไข่ต้มยางมะตูม สาหร่าย แผ่นสาหร่าย และอื่นๆ อีกมากมาย

ราเม็งโทนชินในประเทศไทย

ในประเทศไทย ราเม็งโทนชินได้เข้ามาเปิดสาขาตั้งแต่ปี 2015 โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ สยามพารากอน, ดิ เอ็มควอเทียร์ และเซ็นทรัลเวิลด์ โดยราเม็งโทนชินในไทยนั้นมีเมนูราเม็งหลากหลายให้เลือกตามความชอบ โดยเมนูยอดนิยมที่แนะนำ ได้แก่

• ราเม็งโทนชิน: ราเม็งซิกเนเจอร์ของทางร้านที่เสิร์ฟพร้อม หมูชาชู ไข่ต้มยางมะตูม ต้นหอมญี่ปุ่น สาหร่าย และแผ่นสาหร่าย
• ราเม็งหมูเผ็ด: ราเม็งที่เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยซอสหมูเผ็ดสูตรเฉพาะของทางร้าน รับประกันความแซ่บถึงใจ
• ราเม็งราเมน: ราเม็งที่เหมาะสำหรับคนรักเส้น เนื่องจากให้เส้นราเม็งมาในปริมาณที่มากกว่าราเม็งทั่วไป

ประโยชน์ของการทานราเม็งโทนชิน

นอกจากความอร่อยแล้ว ราเม็งโทนชินยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เนื่องจากกระดูกหมูมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ได้แก่

• คอลลาเจน: ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง ชุ่มชื้น และลดริ้วรอย
• ไกลซีน: ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรง
• กลูตามีน: ช่วยซ่อมแซมและบำรุงเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
• ไฮยาลูโรนิกแอซิด: ช่วยหล่อลื่นข้อต่อและลดอาการปวดข้อ

ข้อดีและข้อเสียของราเม็งโทนชิน

ข้อดี
* น้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้นหอมหวลไม่เหมือนใคร
* เส้นราเม็งที่เหนียวนุ่ม มีความยืดหยุ่นที่ลงตัว
* หมูชาชูที่นุ่มละลายในปาก
* เครื่องเคียงต่างๆ ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
* มีประโยชน์ต่อสุขภาพเนื่องจากมีสารอาหารจากกระดูกหมู

ข้อเสีย
* ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับราเม็งทั่วไป
* อาจจะมีคิวยาวในบางสาขา
* อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่แพ้หมูหรืออาหารทะเล
* มีแคลอรี่และโซเดียมค่อนข้างสูง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับราเม็งโทนชิน

1. ราเม็งโทนชินสาขาแรกเปิดที่ไหน?
ตอบ: ย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

2. ราเม็งโทนชินในไทยมีกี่สาขา?
ตอบ: 3 สาขา ได้แก่ สยามพารากอน, ดิ เอ็มควอเทียร์ และเซ็นทรัลเวิลด์

3. น้ำซุปของราเม็งโทนชินเคี่ยวเป็นเวลาเท่าไหร่?
ตอบ: มากกว่า 12 ชั่วโมง

4. หมูชาชูของราเม็งโทนชินคัดสรรมาจากเนื้อหมูส่วนไหน?
ตอบ: เนื้อหมูส่วนท้อง

5. ราเม็งโทนชินมีประโยชน์ต่อสุขภาพหรือไม่?
ตอบ: ใช่ เนื่องจากน้ำซุปกระดูกหมูมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

เรื่องราวฮาๆ เกี่ยวกับราเม็งโทนชิน

เรื่องที่ 1:
ชายหนุ่มคนหนึ่งตัดสินใจไปทานราเม็งโทนชินเป็นครั้งแรก แต่เนื่องจากเป็นคนใจร้อน จึงรีบซดน้ำซุปไปคำใหญ่ทันที ผลก็คือ ริมฝีปากของชายหนุ่มนั้นพองขึ้นเป็นไส้กรอกเลยทีเดียว (อย่าใจร้อนนะคะ ค่อยๆ ทานเดี๋ยวจะปากพองเหมือนชายหนุ่มคนนี้)

เรื่องที่ 2:
หญิงสาวคนหนึ่งสั่งราเม็งโทนชินมาทาน 2 ชาม แต่โชคไม่ดีที่วันนั้นมีคิวยาวมาก เธอก็นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ แต่เมื่อพนักงานเสิร์ฟราเม็งมาถึง เธอถึงกับต้องอึ้งไปชั่วขณะ เนื่องจากราเม็งชามหนึ่งของเธอถูกซดเกือบหมดแล้ว เธอก็หันไปถามพนักงานอย่างประหลาดใจว่า "นี่ราเม็งของฉันหรือเปล่าคะ" พนักงานก็ตอบว่า "ใช่ครับ แต่พอดีเมื่อกี้มีหนุ่มหล่อคนหนึ่งมาขอยืมชิมไปคำเดียว" (น่าสงสารนะคะ หิวๆ อยู่แท้ๆ ยังต้องมาเจอคนขอยืมชิมอีก)

เรื่องที่ 3:
ชายหนุ่มคนหนึ่งทานราเม็งโทนชินจนหมดชาม แล้วรู้สึกยังไม่อิ่ม จึงตัดสินใจสั่งหมูชาชูมาเพิ่ม โดยไม่รู้ว่าหมูชาชูของโทนชินนั้นชิ้นใหญ่มาก เมื่อหมูชาชูมาเสิร์ฟ ชายหนุ่มก็ถึงกับพูดไม่ออก เพราะหมูชาชูชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือเลยทีเดียว (ทาน