วิธีลดไข้ให้หายเร็วที่สุด ภายใน 24 ชั่วโมง
อาการไข้เกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิร่างกายของคุณสูงกว่าปกติ ซึ่งโดยทั่วไปจะวัดได้ที่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไข้มักเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ โดยทั่วไป อาการไข้จะหายได้เองภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการลดไข้ให้เร็วที่สุด มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้
การรักษาอาการไข้ด้วยตัวเอง
วิธีที่ง่ายที่สุดในการลดไข้คือการปฏิบัติตาม วิธีการรักษาด้วยตนเอง ง่ายๆ ต่อไปนี้:
-
ดื่มน้ำปริมาณมาก: การดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายของคุณเย็นลงและป้องกันการขาดน้ำ
-
พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนช่วยให้ร่างกายของคุณฟื้นตัวจากการติดเชื้อที่ทำให้เกิดไข้
-
ประคบผ้าเย็น: การประคบผ้าเย็นบนหน้าผาก คอ และรักแร้ช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย
-
อาบน้ำอุ่น: การอาบน้ำอุ่นช่วยให้ร่างกายของคุณเย็นลงจากภายใน
-
รับประทานอาหารอ่อนๆ: หลีกเลี่ยงอาหารหนักและมันซึ่งอาจทำให้อาการไข้แย่ลง
หากมาตรการดูแลตนเองเหล่านี้ไม่ได้ผล วิธีต่อไปนี้คือ ยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ ซึ่งสามารถช่วยลดไข้ได้:
-
ยาพาราเซตามอล: ยานี้มีจำหน่ายทั้งแบบเม็ดและแบบน้ำเชื่อม
-
ยาไอบูโพรเฟน: ยานี้มีจำหน่ายทั้งแบบเม็ดและแบบเหลว
-
ยาแอสไพริน: ยานี้มีจำหน่ายเฉพาะในรูปแบบเม็ด
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการป่วยอื่นๆ หรือหากอาการไข้ของคุณรุนแรงหรือกินเวลานานกว่า 3 วัน
การรักษาทางการแพทย์สำหรับอาการไข้
หากอาการไข้ของคุณรุนแรง หรือไม่หายด้วยวิธีการรักษาด้วยตนเองและยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ คุณอาจต้อง พบแพทย์ แพทย์ของคุณอาจสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสหากการติดเชื้อที่ทำให้เกิดไข้ของคุณเกิดจากแบคทีเรียหรือไวรัส แพทย์ของคุณยังอาจแนะนำให้คุณเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหากอาการไข้ของคุณรุนแรงหรือไม่หายหลังจากการรักษา
วิธีลดไข้ให้หายเร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง
หากคุณต้องการลดไข้ให้หายเร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง คุณสามารถทำตาม ขั้นตอน ต่อไปนี้:
-
รับประทานยาพาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟน: ยาเหล่านี้เป็นยาแก้ปวดและลดไข้ที่มีประสิทธิภาพ
-
ดื่มน้ำปริมาณมาก: การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายของคุณเย็นลงและป้องกันการขาดน้ำ
-
พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายของคุณฟื้นตัวจากการติดเชื้อที่ทำให้เกิดไข้
-
ประคบผ้าเย็น: การประคบผ้าเย็นบนหน้าผาก คอ และรักแร้ช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน: เครื่องดื่มเหล่านี้สามารถทำให้ร่างกายของคุณขาดน้ำและทำให้ไข้แย่ลง
เคล็ดลับและคำแนะนำ
นอกจากวิธีการที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว คุณยังสามารถใช้ เคล็ดลับและคำแนะนำ ต่อไปนี้เพื่อช่วยลดไข้:
-
สวมเสื้อผ้าหลวมๆ: เสื้อผ้าหลวมๆ จะช่วยให้ร่างกายของคุณระบายความร้อน
-
อยู่ในห้องเย็น: ห้องที่มีอากาศเย็นจะช่วยให้ร่างกายคุณเย็นลง
-
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกาย: การออกกำลังกายหรืองานหนักสามารถทำให้ไข้แย่ลง
-
กินผลไม้และผักมากมาย: ผลไม้และผักมีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณ
-
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่สามารถทำให้อาการไข้แย่ลง
ป้องกันอาการไข้
แม้ว่าอาการไข้จะไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นไข้ได้โดยการ ปฏิบัติตามคำแนะนำ ต่อไปนี้:
-
ล้างมือบ่อยๆ: การล้างมือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
-
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย: หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ที่มีอาการไข้หรืออาการป่วยอื่นๆ
-
ทำความสะอาดพื้นผิวที่ใช้บ่อย: ทำความสะอาดพื้นผิวที่ใช้บ่อย เช่น โต๊ะและที่จับประตู เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
-
ได้รับวัคซีนที่จำเป็น: การได้รับวัคซีนที่จำเป็น เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนปอดบวม ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ทำให้เกิดไข้
-
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณ: การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณด้วยการกินอาหารที่มีสุขภาพดี การออกกำลังกาย และการนอนหลับให้เพียงพอ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นไข้
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์:
- อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
- อาการไข้กินเวลานานกว่า 3 วัน
- อาการไข้มาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดหัวรุนแรง ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือหายใจลำบาก
- คุณมีอาการของการติดเชื้อรุนแรง เช่น ไอเป็นเลือด ปวดท้องรุนแรง หรือปัสสาวะขุ่น
- คุณมีอาการป่วยเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
หากคุณมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของภาวะที่รุนแรงกว่า ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์