รับซื้อแอร์เสีย เปลี่ยนของเก่าให้เป็นเงิน สร้างรายได้พิเศษง่ายๆ
คำนำ
ในยุคปัจจุบันที่ค่าครองชีพสูงลิ่ว การหารายได้เสริมกลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับหลายๆ คน และรู้หรือไม่ว่าของเก่าที่ไม่ได้ใช้งานอย่างเครื่องปรับอากาศเสีย ก็สามารถสร้างรายได้ให้คุณได้ แอร์เสียเหล่านี้มีมูลค่าในตลาดซื้อขายของเก่า ด้วยเหตุผลดังนี้
-
เศษทองแดง: เครื่องปรับอากาศมีส่วนประกอบของทองแดงจำนวนมาก โดยเฉพาะในคอมเพรสเซอร์ ซึ่งมีมูลค่าสูงในตลาด
-
เศษอะลูมิเนียม: ตัวเครื่องภายนอกของเครื่องปรับอากาศทำจากอะลูมิเนียม และมีอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งมีมูลค่ารองลงมาจากทองแดง
ประเภทของเครื่องปรับอากาศเสียที่รับซื้อ
ร้านรับซื้อของเก่าจะรับซื้อเครื่องปรับอากาศเสียหลากหลายประเภท เช่น
- เครื่องปรับอากาศติดผนัง
- เครื่องปรับอากาศตั้งพื้น
- เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้า
- เครื่องปรับอากาศแบบตั้งแขวน
- เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่
ขั้นตอนการขายเครื่องปรับอากาศเสีย
-
ติดต่อร้านรับซื้อของเก่า: ค้นหาร้านรับซื้อของเก่าที่ใกล้เคียงและสอบถามราคาเบื้องต้น
-
นัดหมายการเข้ารับบริการ: แจ้งจำนวนและประเภทของเครื่องปรับอากาศเสีย พร้อมนัดหมายวันและเวลาให้เจ้าหน้าที่มาประเมินราคา
-
เตรียมเครื่องปรับอากาศเสีย: ถอดปลั๊กและทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเสียให้เรียบร้อย
-
เจ้าหน้าที่มาประเมินราคา: เจ้าหน้าที่จะนำเครื่องชั่งน้ำหนักมาชั่งเพื่อประเมินน้ำหนักของเศษทองแดงและอะลูมิเนียม และเสนอราคาให้
-
ตกลงราคาและรับเงิน: หากตกลงตามราคาที่เสนอ เจ้าหน้าที่จะจ่ายเงินให้ทันทีและขนย้ายเครื่องปรับอากาศเสียออกไป
ประโยชน์ของการขายเครื่องปรับอากาศเสีย
นอกจากจะได้เงินแล้ว การขายเครื่องปรับอากาศเสียยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก ได้แก่
-
กำจัดขยะชิ้นใหญ่: เครื่องปรับอากาศเสียถือเป็นขยะชิ้นใหญ่ที่อาจเกะกะและไม่สวยงาม
-
รักษาสิ่งแวดล้อม: การรีไซเคิลเครื่องปรับอากาศเสีย ช่วยลดปริมาณขยะและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
-
ช่วยเหลือสังคม: ร้านรับซื้อของเก่าบางแห่งนำเศษวัสดุไปบริจาคให้หน่วยงานการกุศล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ราคาเครื่องปรับอากาศเสีย
ราคาเครื่องปรับอากาศเสียขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น
- ประเภทของเครื่องปรับอากาศ
- น้ำหนักของเศษทองแดงและอะลูมิเนียม
- ราคาตลาดของทองแดงและอะลูมิเนียม
- ร้านรับซื้อของเก่าแต่ละแห่ง
โดยทั่วไป เครื่องปรับอากาศติดผนัง BTU 9,000 จะมีราคาประมาณ 500-1,000 บาท ส่วนเครื่องปรับอากาศตั้งพื้น BTU 12,000 จะมีราคาประมาณ 1,000-1,500 บาท
ตารางเปรียบเทียบราคาเครื่องปรับอากาศเสีย
| ประเภทเครื่องปรับอากาศ |
น้ำหนัก (กิโลกรัม) |
ราคา (บาท) |
| ติดผนัง BTU 9,000 |
15-20 |
500-1,000 |
| ตั้งพื้น BTU 12,000 |
20-25 |
1,000-1,500 |
| ฝังฝ้า BTU 18,000 |
30-35 |
1,500-2,000 |
| ตั้งแขวน BTU 24,000 |
35-40 |
2,000-2,500 |
| เคลื่อนที่ BTU 6,000 |
10-15 |
300-500 |
เคล็ดลับการขายเครื่องปรับอากาศเสียให้ได้ราคาดี
-
เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้าน: อย่าขายให้ร้านแรกที่ติดต่อมา ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
-
ต่อรองราคา: อย่ารีบตกลงราคาที่เสนอมา ให้ลองต่อรองราคาดูก่อน โดยอ้างถึงราคาตลาดหรือราคาที่ร้านอื่นเสนอมา
-
แยกส่วนประกอบ: หากเป็นไปได้ ให้แยกชิ้นส่วนที่มีมูลค่าสูง เช่น คอมเพรสเซอร์ ออกขายต่างหาก เพื่อเพิ่มมูลค่า
-
ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ: การทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเสียให้เรียบร้อยก่อนขาย จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและอาจได้ราคาดีขึ้น
เรื่องเล่าขำๆ และข้อคิด
เรื่องที่ 1:
ชายหนุ่มคนหนึ่งมีเครื่องปรับอากาศเสีย 2 เครื่อง เขาจึงตัดสินใจขายให้ร้านรับซื้อของเก่า แต่ด้วยความขี้เกียจ เขาจึงยกเครื่องปรับอากาศทั้ง 2 เครื่องขึ้นรถเก๋งคันเล็ก แล้วขับไปที่ร้าน
เมื่อไปถึงร้าน เจ้าของร้านเห็นเครื่องปรับอากาศทั้ง 2 เครื่อง ก็ตกใจถามว่า "เอามาจากไหนตั้ง 2 เครื่อง" ชายหนุ่มตอบอย่างหน้าตาเฉยว่า "ซื้อมาพร้อมกัน" เจ้าของร้านส่ายหัวแล้วพูดว่า "แล้วใช้ยังไงล่ะ คุณมีกำแพง 2 ด้านให้ติดหรือไง" ชายหนุ่มเกาหัวแล้วตอบว่า "ผมวางซ้อนกันครับ" เจ้าของร้านได้แต่หัวเราะแล้วบอกว่า "แล้วมันจะเย็นได้ยังไงล่ะ"
ข้อคิด: บางครั้งการทำอะไรที่ขาดการวางแผนหรือเกินความสามารถของตัวเอง อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
เรื่องที่ 2:
หญิงสาวคนหนึ่งโทรไปที่ร้านรับซื้อของเก่าเพื่อสอบถามราคาเครื่องปรับอากาศเสีย เจ้าของร้านถามว่า "เครื่องปรับอากาศอะไรครับ น้ำหนักเท่าไหร่" หญิงสาวตอบว่า "เป็นแอร์ติดผนังค่ะ น้ำหนักไม่รู้ค่ะ แต่มีล้อเลื่อน" เจ้าของร้านงงเลยถามว่า "ล้อเลื่อนอะไรครับ" หญิงสาวตอบอย่างจริงจังว่า "ล้อเลื่อนติดอยู่กับแอร์เลยค่ะ เวลาเปิดแอร์ ล้อจะเลื่อนไปมาได้" เจ้าของร้านถึงกับอึ้งไป
ข้อคิด: การขาดความรู้และข้อมูลที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและการสื่อสารที่ผิดพลาด
เรื่องที่ 3:
ชายชราคนหนึ่งนำเครื่องปรับอากาศเสียไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า เจ้าของร้านถามว่า "เครื่องปรับอากาศใช้ได้ไหมครับ" ชายชราตอบว่า "ใช้ได้สิ แต่เย็นไม่ทั่วถึง" เจ้าของร้านเจรจาต่อรองราคาอยู่สักพัก แล้วก็ตกลงซื้อ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ชายชราโทรมาที่ร้านแล้วโวยวายว่า "แอร์ที่ขายไปน่ะ ใช้ไม่ได้เลย" เจ้าของร้านแปลกใจ ถามว่า "ใช้ไม่ได้ยังไงครับ" ชายชราตอบว่า "พอเปิดแอร์แล้ว เครื่องมันเคลื่อนที่ไปข้างหน้า แล้วตอนปิดเครื่อง มันก็เลื่อนกลับไปที่เดิม" เจ้าของร้านต้องหัวเราะแล้วอธิบายว่า "เครื่องปรับอากาศมันไม่มีล้อเลื่อนครับ"
ข้อคิด: ก่อนซื้อหรือขายอะไรที่ไม่คุ้นเคย ควรศึกษาข้อมูลและสอบถามให้แน่ใจก่อน
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
-
นำเครื่องปรับอากาศที่ซ่อมแล้วไปขาย: เครื่องปรับอากาศที่ซ่อมแล้วอาจไม่เหมาะสำหรับการขาย เนื่องจากอาจมีชิ้นส่วนที่ชำรุดหรือไม่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
-
ขายราคาถูกเกินไป: ก่อนขาย ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านและต่อรองราคาให้ได้ราคาที่เหมาะสม
-
ขนย้ายเครื่องปรับอากาศด้วยตัวเอง: เครื่องปรับอากาศเป็นของที่หนักและเทอะทะ ควรให้เจ้าหน้าที่จากร้านรับซื้อของเก่าขนย้ายให้จะปลอดภัยกว่า
-
วางเครื่องปรับอากาศในที่ชื้น: เครื่องปรับอากาศเสียที่เก็บไว้ในที่ชื้นอาจเกิดสนิมหรือชำรุดได้
คำถามที่พบบ่อย
ถาม: ใครสามารถขายเครื่องปรับอากาศเสียได้บ้าง
ตอบ: ทุกคนสามารถขายเครื่องปรับอากาศเสียได้
ถาม: จำเป็นต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างเมื่อขายเครื่องปรับอากาศ
